วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

  การบันทึกครั้งที่ 9
วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2560
เนื้อหาที่เรียน

8.เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์  (Children with Behavioral and Emotional Disorders)
-มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ 
-แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น 
-มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
-เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆ ไม่ได้
-เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้ 
-ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
-ความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งทำให้เด็กมีนิสัยขี้กลัว 
-ภาวะซึมเศร้า (Depression) มีความเศร้าในระดับที่สูงเกินไป 
-ปัญหาทางสุขภาพ และขาดแรงกระตุ้นหรือความหวังในชีวิต 
-การจำแนกเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ ตามกลุ่มอาการ

ด้านความประพฤติ (Conduct Disorders)
-ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสิ่งของ ลักทรัพย์
-ฉุนเฉียวง่าย หุนหันพลันแล่น และเกรี้ยวกราด
-กลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหก ชอบโทษผู้อื่น
-เอะอะและหยาบคาย
-หนีเรียน รวมถึงหนีออกจากบ้าน
-ใช้สารเสพติด
-หมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศ

ด้านความตั้งใจและสมาธิ (Attention and Concentration) 
-จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะสั้น (Short attention span) อาจไม่เกิน 20 วินาที 
-ถูกสิ่งต่างๆ รอบตัวดึงความสนใจได้ตลอดเวลา
-งัวเงีย ไม่แสดงความสนใจใดๆ รวมถึงมีท่าทางเหมือนไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด

สมาธิสั้น (Attention Deficit)
-มีลักษณะกระวนกระวาย ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ หยุกหยิกไปมา
-พูดคุยตลอดเวลา มักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
-มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ

การถอนตัวหรือล้มเลิก (Withdrawal)
-หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น
-เฉื่อยชา และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา
-ขาดความมั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก

ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย(Function Disorder)
-ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน (Eating Disorder) 
-การอาเจียนโดยสมัครใจ (Voluntary Regurgitation) 
-การปฏิเสธที่จะรับประทาน 
-รับประทานสิ่งที่รับประทานไม่ได้
-โรคอ้วน (Obesity) 
-ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ (Elimination Disorder)

ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง
-ขาดเหตุผลในการคิด
-อาการหลงผิด (Delusion)
-อาการประสาทหลอน (Hallucination)
-พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง

สาเหตุ
-ปัจจัยทางชีวภาพ (Biology)
-ปัจจัยทางจิตสังคม (Psychosocial)

ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
-ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
-รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้ 
-มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน 
-มีความคับข้องใจ มีความเก็บกดอารมณ์ 
-แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 
-มีความหวาดกลัว

เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
-เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit and Hyperactivity Disorders) 
-เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิสซึ่ม (Autisum) 

เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit Hyperactivity Disorders)
ADHD เป็นภาวะผิดปกติทางจิตเวช มีลักษณะเด่นอยู่ 3 ประการ คือ 
        -Inattentiveness (สมาธิสั้น) ทำอะไรได้ไม่นาน วอกแวก ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้นานเพียงพอ มักใจลอยหรือเหม่อลอยง่าย เด็กเล็กๆจะเล่นอะไรได้ไม่นาน เปลี่ยนของเล่นไปเรื่อยๆ เด็กโตมักทำงานไม่เสร็จตามที่สั่ง ทำงานตกหล่น ไม่ครบ ไม่ละเอียด
      -Hyperactivity (ซนอยู่ไม่นิ่ง)ซุกซนไม่ยอมอยู่นิ่ง ซนมากเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เหลียวซ้ายแลขวา 
ยุกยิก แกะโน่นเกานี่ อยู่ไม่สุข ปีนป่าย นั่งไม่ติดที่ ชอบคุยส่งเสียงดังรบกวนคนรอบข้าง
      -Impulsiveness (หุนหันพลันแล่น)ยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้ มักทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด วู่วามขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่อดทนต่อการรอคอย หรือกฎระเบียบ ไม่อยู่ในกติกา ทำอะไรค่อนข้างรุนแรง พูดโพล่ง ทะลุกลางปล้อง 
ไม่รอคอยให้คนอื่นพูดจบก่อน ชอบมาสอดแทรกเวลาคนอื่นคุยกัน

สาเหตุ
-ความผิดปกติของสารเคมีบางชนิดในสมอง 
-เช่น โดปามีน (dopamine) นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine) 
-ความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ และการตื่นตัว อยู่ที่สมองส่วนหน้า (frontal cortex)
-พันธุกรรม
-สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
-ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิสั้น
-สมาธิสั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกผิดวิธี ตามใจมากเกินไป หรือปล่อยปละละเลยจนเกินไป -และไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แต่ปัญหาอยู่ที่การทำงานของสมองที่ควบคุมเรื่องสมาธิของเด็ก

อยู่ไม่สุข (Hyperactivity )สมาธิสั้น (Attention Deficit )

ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
-อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน 
-ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา และของใช้ในวัยทารก 
-ดูดนิ้ว กัดเล็บ
-หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม 
-เรียกร้องความสนใจ 
-อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า 
-ขี้อิจฉาริษยา ก้าวร้าว
-ฝันกลางวัน 
-พูดเพ้อเจ้อ 

9. เด็กพิการซ้อน (Children with Multiple Handicaps) 
-เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
-เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน 
-เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด 
-เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด




ความรู้ที่ได้รับ
       ได้รับความเกี่ยวกับเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์และเด็กพิการซ้อน
การนำไปใช้ 
       ลักษณะอาการของเด็กแต่ละกลุ่มแตกต่างกันการรักษาและการดูแลก็มีวิธีที่ต่างกันควรใช้ให้ถูกต้องกับพฤติกรรมและกลุ่มอาการนั้น
ประเมิน 
ตนเอง : เรียนตรงเวลาและตั้งใจเรียน 
เพื่อน  : ตั้งใจเรียน  บางคนก็มีหลับบ้าง
อาจารย์  : แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีการเตรียมการสอนมาดี และมีแจกอุปกรณ์การเรียนอีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น